จดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

เรียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วที่ท่านและพวกพ้องของท่านทำรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 นับแต่นั้น ผมนิ่งเฉยมิใช่เพราะไม่ได้รับเงินค่าจ้าง แต่เป็นเพราะท่านได้จับประชาชนหลายคนเป็นตัวประกัน อันที่จริงแล้วท่านจับคนทั้งประเทศเป็นตัวประกัน – หากกล่าวว่ารัฐประหารคือการต่อต้านประชาธิปไตย ผิดกฎหมาย และคอรัปชั่น ก็จะเป็นการลดทอนความชั่วร้ายของเงามืดที่ปกคลุมประชาชนชาวไทยผู้หยิ่งทะนงและน่านับถือโดยท่านและกลุ่มสมุนนายพลขี้ขลาดของท่าน

น่าเสียดายที่ในประเทศไทย ความมุ่งมั่นปรารถนาของ “นายพล” อย่างเช่นตัวท่านมิใช่การได้ปกป้องประชาชนและทางเลือกประชาธิปไตยของพวกเขา หรือแม้แต่การเป็นทหารที่ดี ข้อเท็จจริงคือ ความสำเร็จอันโดดเด่นของท่านก่อนการทำรัฐประหารคือช่วยวางแผนสังหารโหดประชาชนมือเปล่าเกือบ 100 รายในปี 2553 ความกล้าหาญที่ท่านต้องแสดงออกในการทำเช่นนั้นยังคงยากที่จะวัดได้

นับตั้งแต่วันสำคัญในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 เมื่อ “ความกล้าหาญ” ของท่านได้ผลักดันให้ท่านส่งรถถังและกองกำลังทหารออกมาเพื่อทำลายประชาธิปไตยอันบอบบางของประเทศไทย ในช่วงเวลาที่ประชาธิปไตยจำเป็นต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองมากที่สุด ท่านกลับเปลี่ยนประเทศของท่านให้กลายเป็นคนนอกคอกที่เดินวางท่าบนเวทีนานาชาติไม่ต่างจากเผด็จการโง่เขลาหลงตัวเองถอดด้ามใหม่ล่าสุด

แน่นอนว่า ประชาชนชาวไทยสมควรได้รับสิ่งที่ดีมากกว่าท่านและกลุ่มทหารเผด็จการของท่าน ตัวเลือกของประชาชนชาวไทยชัดเจนและแจ่มแจ้ง ประชาชนกว่าสิบล้านคนเลือกยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีและพรรครัฐบาลตามลำดับ การที่ท่านไม่แยแสต่อข้อเท็จจริงง่ายๆ ที่ว่าประชาชนไทยได้แสดงเจตจำนงค์ตามระบอบประชาธิปไตยเผยให้เห็นว่าท่านดูถูกประชาชนเพื่อนร่วมชาติของท่าน พวกเขาไม่มีความหมายต่อท่านอย่างชัดเจน สำหรับท่าน ประชาชนควรควรเจียมกะลาหัว ทำตามคำสั่ง หากไม่เช่นนั้น พวกเขาจะต้องได้รับผลร้าย

แน่นอน เมื่อท่านถูกตั้งคำถาม ท่านกลับข่มขู่ เรียกกองกำลังทหารออกมาก จับนักศึกษาและนักข่าวเพื่อเอาไปทำให้สิ่งที่ท่านเรียกอย่างไม่ละอายใจว่า “ปรับทัศนคติ” เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 ท่านจับกุมพลเรือนไทย 8 คนที่กล้าวิจารณ์ท่านและการทำ “ประชาพิจารณ์” เกี่ยวกับ “รัฐธรรมนูญ” ของกลุ่มเผด็จการทหาร คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับโทษจำคุกอันยาวนาน ซึ่งทำให้เราสงสัยว่า เฟซบุ๊คเพจคือภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดที่ท่านเคยเผชิญมาในอาชีพ “ทหาร” ของท่านหรืออย่างไร

ร่าง “รัฐธรรมนูญ” ที่ท่านนำเสนอในการทำประชาพิจารณ์ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 คือสิ่งที่ต่อต้านประชาธิปไตยโดยเนื้อแท้ เพราะบุคคลที่ท่านตั้งขึ้นมาควบคุมคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญนั้นต่อต้านอำนาจอธิปไตยของปวงชนอย่างชัดเจน “รัฐธรรมนูญไม่ได้มีเพื่อให้อำนาจประชาชนอย่างเดียว แต่เพื่อคุ้มครองความผาสุกของประชาชน” นายมีชัย ฤชุพันธุ์กล่าว โดยรู้เป็นอย่างดีว่ากลุ่มนายพลอย่างท่านจะเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจว่า “ความผาสุก” ประเภทไหนที่ประชาชนไทยต้องยอมทน และแน่นอน ตัวประชาพิจารณ์เองก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาปืนที่โหลดด้วยกระสุนจ่อหัวประชาชนไทย ข้อความจากกลุ่มทหารเผด็จการชัดเจนว่า “จะโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญที่ต่อต้านประชาธิปไตยแบบสุดโต่งหรือจะเอาอย่างอื่น” ความหวาดกลัวของท่านคือการที่ประชาชนไทยอาจจะขัดขืนอย่างแข็งขันต่อการทำลายประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องของท่าน และท่านยังระบุด้วยว่าหากใครรณรงค์ต่อต้านประชาพิจารณ์ก็จะถูกจำคุกถึง 10 ปี และคำกล่าวนี้จะถูกบังคับใช้โดยทหาร แบบปืนพร้อม เตรียมยิง และเอาพลซุ่มยิงประจำการอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

อย่างไรก็ตาม ผมยังคงเชื่อว่าวงเวียนของการกดขี่อันไม่มีที่สิ้นสุดที่ท่านบังคับขู่เข็ญต่อประเทศไทยจะสิ้นสุดลง ความศรัทธาในประชาธิปไตยและความถูกต้องของประชาชนไทยนั้นมีพลังเหนือกว่าความสามารถของท่านที่จะบดขยี้ศรัทธานี้ ความพ่ายแพ้ของท่านคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในที่สุด ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ท่านคืออาชญากรและเราจะไม่หยุดจนกว่าท่านจะเดินเข้าคุก ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านสมควรได้รับอย่างแท้จริง

ด้วยความนับถือ

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม